![]() |
ความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคมาลาเรีย และบทบาทความสำคัญในเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | รณิดา เตชะสุวรรณา |
Title | ความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคมาลาเรีย และบทบาทความสำคัญในเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว |
Publisher | กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค |
Publication Year | 2562 |
Journal Title | วารสารควบคุมโรค |
Journal Vol. | 45 |
Journal No. | 3 |
Page no. | 211-220 |
Keyword | วัคซีน, มาลาเรีย, การพัฒนา |
URL Website | https://www.tci-thaijo.org/index.php/DCJ |
Website title | เว็บไซต์วารสารควบคุมโรค |
ISSN | 2651-1649 |
Abstract | การเดินทางระหว่างประเทศได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี โดยจำนวนนักเดินทางนานาชาติที่เดินทางระหว่างประเทศเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่า 2 เท่า ใน 20 ปีที่ผ่านมา การเจ็บป่วยจากการเดินทางเป็นเรื่องที่พบเจอได้โดยไม่ได้คาดหมาย เวชศาสตร์การเดินทางได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับนักเดินทาง โดยเฉพาะด้านการป้องกันโรค และมาลาเรียเป็นหนึ่งในโรคที่ต้องเฝ้าระวังขณะเดินทางในเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบทวีปแอฟริกาทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา ซึ่งนักเดินทางสามารถติดเชื้อมาลาเรียได้ แม้จะเป็นในตัวเมืองก็ตาม รายงานมาลาเรียโลกในปี พ.ศ. 2559 ได้ประมาณว่า มีคนติดเชื้อมาลาเรียทั้งสิ้น 216 ล้านคน ใน 91 ประเทศทั่วโลก โดยร้อยละ 90.0 ของบุคคลเหล่านี้ติดเชื้อมาลาเรียจากทวีปแอฟริกา และมีคนเสียชีวิตจากมาลาเรียทั้งสิ้นประมาณ 445,000 คน ปัจจุบันเมื่อนักเดินทางจะเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงมาลาเรียสูง แพทย์จะแนะนำวิธีการป้องกันตนเองจากมาลาเรียด้วยวิธีการป้องกันยุงกัด ร่วมกันกับการรับประทานยาป้องกันการติดเชื้อมาลาเรียในนักเดินทางบางคน โดยการรับประทานยาป้องกันมาลาเรียนั้น ถึงแม้จะมีประโยชน์ในแง่ของการช่วยป้องกันโรคได้ระดับหนึ่ง แต่ก็มีผลเสียในแง่ของความไม่สะดวกในการต้องรับประทานยาเป็นประจำต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงมาลาเรีย ระหว่างอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และหลังออกจากพื้นที่เสี่ยงอีก 1-4 สัปดาห์ รวมถึงอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่อร่างกาย แพทย์จึงต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อมาลาเรียหากไม่กินยา และโอกาสเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่เกิดจากยาป้องกันมาลาเรียร่วมกัน วัคซีนป้องกันมาลาเรียจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับทั้งนักเดินทางและบุคคลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อโรค มีการพยายามคิดค้นพัฒนาวัคซีนป้องกันมาลาเรียมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2484 วัคซีนป้องกันมาลาเรียมีเป้าหมายไปตามวงจรชีวิตของเชื้อมาลาเรีย 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่เชื้อเข้าสู่ร่างกายโดยยุงกัดและเข้าสู่ตับ ระยะที่เชื้อออกจากตับเข้าสู่เม็ดเลือดแดง และระยะที่ใช้เพศพร้อมที่จะเข้าสู่ยุงและแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นต่อไป การพัฒนาวัคซีนเกิดขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และวัคซีนที่ถูกพัฒนาได้มากที่สุดขณะนี้อยู่ในระยะที่ 3 ของการทดลอง แต่ประสิทธิภาพที่ได้ยังไม่ดีมากนัก และยังไม่สามารถนำออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดได้ ดังนั้น จึงถือเป็นการท้าทายที่จะนำความรู้องค์รวมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาพัฒนาวัคซีนป้องกันมาลาเรียที่มีประสิทธิภาพต่อไป |