ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคมือเท้าปาก ของผู้ปกครองและเด็กก่อนวัยเรียน อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
รหัสดีโอไอ
Creator จันทราวดี พรมโสภณ
Title ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคมือเท้าปาก ของผู้ปกครองและเด็กก่อนวัยเรียน อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
Contributor สมคิด ปราบภัย
Publisher สถาบันวิจัย จัดการความรู้ และมาตรฐานการควบคุมโรค
Publication Year 2560
Journal Title วารสารควบคุมโรค
Journal Vol. 43
Journal No. 4
Page no. 356-367
Keyword โรคมือเท้าปาก, พฤติกรรม, แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ
URL Website https://www.tci-thaijo.org/index.php/DCJ
Website title เว็บไซต์วารสารควบคุมโรค
ISSN 1685-6481
Abstract การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการป้องกันโรคมือเท้าปากของผู้ปกครอง และเด็กก่อนวัยเรียน ปัจจัยด้านแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ และปัจจัยด้านชีวสังคมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการป้องกัน โรคมือเท้าปากของผู้ปกครอง และปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคมือเท้าปากของเด็กก่อนวัยเรียนเป็นการวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวาง (analytical cross-sectional study) โดยศึกษากับผู้ปกครองและเด็กก่อนวัยเรียนอายุ 3-5 ปี ที่อาศัยอยู่ในอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 250 คู่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ด้วยค่าการทดสอบไคสแควร์ (chi-square) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุลอจิสติก (multiple logistic regressions) ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้ ผู้ปกครองเด็กก่อนวัยเรียนมีพฤติกรรมการป้องกันโรคมือเท้าปากอยู่ในระดับดีคือ การล้างมือก่อนการเตรียมหรือปรุงอาหารและหลังการขับถ่าย คิดเป็นร้อยละ 55.20 ส่วนเด็กก่อนวัยเรียนมีพฤติกรรมการป้องกันโรคมือเท้าปากอยู่ในระดับดีคือการขับถ่ายอุจจาระลงส้วมคิดเป็นร้อยละ 54.40 ผู้ปกครองเด็กก่อนวัยเรียนที่มีการรับรู้ความรุนแรงของโรคสูง การรับรู้อุปสรรคน้อย และการเชื่อในความสามารถของตนเองในระดับสูง มีพฤติกรรมการป้องกันโรคมือเท้าปากได้ดีกว่าเป็น 3.15 (95% CI: 1.79-5.56), 2.11 (95% CI: 1.14-3.92) และ 7.79 (95% CI: 2.46-24.62) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ส่วนผู้ปกครองเด็กก่อนวัยเรียนที่มีอาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมการป้องกันโรคมือเท้าปากที่ดี คือการขับถ่ายอุจจาระลงส้วมเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 87.00 เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ปกครองที่มีอาชีพพนักงานบริษัท/เอกชน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05)
กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ