![]() |
การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับการประเมินขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | เกวลิน หนูสุทธิ์ |
Title | การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับการประเมินขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน |
Contributor | กวินรัตน์ อัฐวงศ์ชยากร, กีรติ ตระการศิริวานิช, เฉลิมชัย ปัญญาดี |
Publisher | Mae Fah Luang University |
Publication Year | 2565 |
Journal Title | CONNEXION Journal of Humanities and Social Sciences |
Journal Vol. | 11 |
Journal No. | 2 |
Page no. | Article ID: 260495 |
Keyword | การประเมิน, รูปแบบขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน, การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย, การท่องเที่ยวโดยชุมชน, Assessment, Carrying Capacity Assessment Model of Community Based Tourism, Policy Proposal Development, Community Based Tourism |
URL Website | https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MFUconnexion |
Website title | CONNEXION Journal of Humanities and Social Sciences |
ISSN | 2821-9651 |
Abstract | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินรูปแบบขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย และเพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับการประเมินขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสาน ซึ่งดำเนินการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณเกี่ยวกับการประเมินรูปแบบขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ประกอบด้วย (1) ชุมชนบ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ (2) ชุมชนบ่อสวก จังหวัดน่าน (3) บ้านท่าขันทอง จังหวัดเชียงราย และ (4) ชุมชนบ้านไร่กองขิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากตัวแทนผู้นำของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน และตัวแทนสมาชิกกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชน จำนวน 20 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง คัดเลือกเฉพาะผู้มีส่วนร่วมในการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบในภาคเหนือตอนบน และเป็นผู้นำเครื่องมือประเมินขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนไปใช้โดยตรง แล้วทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา สำหรับการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับการประเมินขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ใช้แบบบันทึกสนทนากลุ่มเฉพาะเจาะจงเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 20 คน โดยใช้วิธีการคัดเลือกผู้ให้ข้อมูลแบบเฉพาะเจาะจงจากเกณฑ์กำหนดคุณสมบัติ ซึ่งเป็น ผู้มีคุณสมบัติ และมีความเชี่ยวชาญในการประเมินขีดความสามารถในการรองรับได้ของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ตลอดจนเป็นผู้มีประสบการณ์หรือผลงานวิจัยด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน สามารถจำแนกผู้เชี่ยวชาญออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 เจ้าหน้าที่ภาครัฐหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว กลุ่มที่ 2 นักวิชาการด้านการวางแผนและจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน และกลุ่มที่ 3 กลุ่มเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนในภาคเหนือ หลังจากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการประเมินรูปแบบขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย พบว่ารูปแบบขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนในภาคเหนือตอนบนทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบเชิงนิเวศ แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบเชิงวัฒนธรรมและหัตถกรรม แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบเชิงเกษตร และแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบสุขภาพ โดยภาพรวมมีองค์ประกอบและตัวชี้วัดที่มีความเหมาะสมต่อการนำไปใช้ในระดับมาก สำหรับข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับการประเมินขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนสามารถจำแนกออกเป็น 5 ประเด็น คือ ประเด็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่ 1 การพัฒนาระบบการติดตาม และประเมินขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ประเด็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่ 2 การผสานผลประโยชน์จากทุนทางสังคม และวัฒนธรรมของชุมชน ประเด็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่ 3 การอนุรักษ์ทรัพยากร และระบบนิเวศในชุมชนท้องถิ่น ประเด็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่ 4 การจัดการความปลอดภัยและระบบสุขภาวะที่เหมาะสม ประเด็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่ 5 การประสานเครือข่ายการอนุรักษ์ และการวิจัยจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดังนั้น ข้อค้นพบจากงานวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นว่าสมาชิกกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนต้นแบบในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย สามารถนำรูปแบบการประเมินขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนไปปรับใช้กับบริบทพื้นที่ของตนเองได้อย่างเหมาะสม และความสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ตนเอง อีกทั้งหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว และเครือข่ายคณะกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนสามารถนำข้อเสนอเชิงนโยบายไปประกอบการวางแผน และกำหนดมาตรการเฝ้าระวังผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ |