ความสัมพันธ์ของผู้ใช้ห้องต่อปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ในห้องเรียนปรับอากาศ
รหัสดีโอไอ
Creator ณัยน์ปพร มั่งสวัสดิ์
Title ความสัมพันธ์ของผู้ใช้ห้องต่อปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ในห้องเรียนปรับอากาศ
Publisher คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
Publication Year 2566
Journal Title วารสาร สิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างวินิจฉัย (Built Environment Inquiry BEI)
Journal Vol. 22
Journal No. 2
Page no. 1-13
Keyword คาร์บอนไดออกไซด์, ห้องเรียน, ห้องปรับอากาศ, คุณภาพอากาศภายในอาคาร, การระบายอากาศ
URL Website https://www.tci-thaijo.org/index.php/arch-kku
Website title Built Environment Inquiry Journal Faculty of Architecture Khon Kaen University, Thailand
ISSN 2651-1185
Abstract งานศึกษานี้เป็นการหาความสัมพันธ์ของผู้ใช้ห้องเรียนต่อปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในห้องเรียนปรับอากาศ โดยทำการวัดค่าความเข้มข้นของ CO2 ภายในห้องเรียนปรับอากาศ สาขาวิชาโยธาสถาปัตยกรรมคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จำนวน 3 ห้อง ที่มีลักษณะทางกายภาพแตกต่างกันและมีกิจกรรมการเรียนการสอนต่างกัน ด้วยเครื่องวัดคุณภาพอากาศ Air meter Fluke 975 ซึ่งตามเกณฑ์มาตรฐาน (ASHRAE)กำหนดค่าความเข้มข้นของ CO2 ให้ไม่ควรเกิน 1,000 ส่วนในล้านส่วน (Part per million : ppm) ผลการตรวจวัดพบว่าภายในห้องเรียนที่มีจำนวนผู้ใช้ห้องเรียนไม่เกิน 30 คน มีค่าความเข้มข้นของ CO2 ตั้งแต่ 393 ถึง 5,314 ppmทุกห้องติดเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน 2 เครื่อง และไม่มีพัดลมดูดอากาศ เมื่อมีการใช้ห้องเป็นเวลา 45 ถึง 60 นาทีพบว่าค่าความเข้มข้นของ CO2 จะเกิน 1,000 ppm อันแสดงถึงการระบายอากาศที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีผู้ใช้ห้องเป็นจำนวนมากและไม่มีการติดตั้งระบบแลกเปลี่ยนอากาศภายในห้อง จึงควรพักช่วงเวลาในการใช้งานห้อง โดยให้ผู้ใช้ห้องออกจากห้องและเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ทุกๆ 45 ถึง 60 นาที และเมื่อผู้ใช้ห้องอยู่ภายในห้องเป็นเวลา 3 ชั่วโมงต่อเนื่อง ค่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะเกิน 1,800 ppm ทุกครั้ง ซึ่งอาจทำให้ผู้เรียนผู้สอนเกิดอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ หมดแรง ไม่มีสมาธิ ระคายคอ ระคายจมูก และพบว่าห้องเรียนในช่วงบ่ายจะมีการสะสมของ CO2 จากช่วงเช้าจนเกินมาตรฐานแล้ว แม้จะหยุดการใช้งานห้องเรียนในช่วงพักเที่ยงและไม่มีคนอยู่ภายในห้องเรียนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ก็ไม่สามารถลดความเข้มข้นของ CO2 ให้ต่ำกว่า 1,000 ppm ได้จากการศึกษาพบว่า จำนวนผู้ใช้ห้องเรียนที่ไม่ทำให้ระดับความเข้มข้นของ CO2 เกิน 1,000 ppm ในช่วงเวลาเรียน 3 ชั่วโมงต่อเนื่อง คือ 3 ถึง 6 คนต่อห้อง ซึ่งไม่สามารถใช้งานได้จริง ควรเพิ่มการไหลเวียนของอากาศบริสุทธิ์ภายนอกเข้ามาภายในห้อง และดูดอากาศภายในห้องออกไปภายนอกในระหว่างการใช้งาน เช่น การติดตั้งพัดลมดูดอากาศแบบมีระบบดูดเข้า-ออก และหากต้องการให้อากาศเกิดการถ่ายเทได้เร็วขึ้น ควรติดตั้งพัดลมดูดอากาศเข้า-ออกสองเครื่องในตำแหน่งตรงข้ามกัน ผลการศึกษายังพบว่า การเรียนในห้องเดียวกันนี้โดยไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ แต่เปิดประตูหน้าต่างในตำแหน่งตรงข้ามกัน ให้อากาศระบายโดยวิธีธรรมชาติร่วมกับการเปิดพัดลมเพดาน ค่าความเข้มข้นของ CO2 มีค่าสูงสุดเพียง 459.5 ppm เท่านั้น ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ใช้ห้อง
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ