![]() |
การมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยของคนในชุมชนบ้านนาตังตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | ณภัสวรรณ ศาลางาม |
Title | การมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยของคนในชุมชนบ้านนาตังตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ |
Publisher | สถาบันวิชาการเพื่อพัฒนาท้องถิ่น |
Publication Year | 2565 |
Journal Title | Administrative Journal for Local Development |
Journal Vol. | 1 |
Journal No. | 1 |
Page no. | 37-52 |
Keyword | การมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอย, บ้านนาตัง, ตำบลเขวาสินรินทร์, อำเภอเขวาสินรินทร์ |
URL Website | https://so19.tci-thaijo.org/index.php/j_asc |
Website title | Administrative Journal for Local Development |
ISSN | ISSN 3057-059X (Online) |
Abstract | การศึกษาวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ 1). เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยของคนในชุมชนบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์จังหวัดสุรินทร์ 2). เพื่อศึกษาการสร้างมูลค่าขยะของคนในชุมชนบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ 3). เพื่อหาแนวทางและมาตรการในการจัดการขยะมูลฝอยของคนในชุมชนบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสมผสานวิธีระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งการวิจัยเชิงปริมาณใช้กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ กลุ่มประชากรในชุมชนบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์จังหวัดสุรินทร์ มีประชากรทั้งหมด ครัวเรือน จำนวน 181 ครัวเรือน โดยแบ่งเป็น 4 คุ้ม 1). คุ้มศรัทธาธรรม 2). คุ้มนำสามัคคี 3). คุ้มศรีประชา 4). คุ้มบุราสันติ จำนวน 504 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างจากสูตรของทาโรยามาเน่ ได้กลุ่มตัวอย่างรวมทั้งหมด 223 คน ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน ใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลลักษณะของแบบสอบถามเป็นทั้งปลายเปิดและปลายปิดมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเชิงปริมาณเท่ากับ ค่าความเชื่อมั่นที่ 95% ที่นัยสำคัญ 0.05 ทดสอบสมมติฐาน โดยการทดสอบค่าที (t) ค่าเอฟ (1) วิเคราะห์ความแปรปรวทางเดียว ในกรณีที่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จะทำการวิเคราะห์ความแตกต่างด้วยวิธีผลนัยสำคัญน้อยที่สุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละค่าเฉลี่ย (x) และค่าเบียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก(n - depth Interview) เป็นเครื่องมือสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน 223 คน ได้แก่ กลุ่มผู้นำชุมชน คือ ผู้ใหญ่บ้าน 1 คน กลุ่มอาสาสมัคร 4 คน และกลุ่มคนในชุมชน 223 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท ผลการวิจัย พบว่าระดับความคิดเห็นของประชาชนต่อการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการจัดการขยะมูลฝอย บ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ระดับความคิดเห็นของประชาชนทั้งค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของคนในชุมชนบ้านบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ตามประเภท 6 ด้าน การมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยของคนในชุมชนบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยจำแนกตามสถานภาพบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษารายได้เฉลี่ยต่อเดือน อาชีพ สถานภาพพบว่าคนในชุมชนที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษารายได้เฉลี่ยต่อเดือน อาชีพ สถานภาพ แตกต่างกันมีระดับการมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยของคนในชุมชนบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยภาพรวม แตกต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยของคนในชุมชนบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์จังหวัดสุรินทร์ โดยภาพรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ 0.05 จึงยอมรับสมมุติฐานแนวทางการการมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยของคนในชุมชนบ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พบว่า ด้านการลดปริมาณขยะมูลฝอย ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น มีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะมูลฝอยในเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาในชุมชนกับ การจัดการขยะมูลฝอย และ ชาวบ้านให้ความสำคัญกับการลดปริมาณขยะมูลฝอย อย่างสม่ำเสมอ และภายในชุมชนนั้นมีความร่วมมือในการลดปริมาณขยะมูลฝอยอย่างดี ด้านการนำกลับมาใช้ช้ำ คนในชุมชนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมการแปรรูปสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว นำสิ่งของที่ใช้ไม่ใช้แล้วมาทำเป็นวัสดุต่างๆเพื่อใช้งนต่อได้ในหลากหลายรูปแบบ ด้านการมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ คนในชุมชนมีความตระหนัก และเห็นถึงคุณค่าประโยชน์ของการการจัดการขยะมูลฝอยในชุมชน และสามารถที่จะนำความรู้ที่ได้จากการดำเนินกิจกรรมไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเอง และกับชุมชนได้ และได้เผยแพร่ให้คนรุ่นหลังต่อไปในอนาคต ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล โดยภาพรวมเล็งเห็น ชาวบ้านติดตามการประเมินผลเป็นอย่างดี |