ข้อดีของการกินผัก
ผักแต่ละสี มีประโยชน์ต่างกัน? เดี๋ยวนี้! ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนในช่วงวัยไหน เพศใด ก็หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือเรื่องของอาหารการกิน ที่ลดการทานของมัน ของทอด และของหวาน แล้วหันไปให้ความสนใจทานผักกันมากขึ้น แต่ก็ยังมีหลายคนที่สงสัยว่าทำไม? ใครๆ ถึงหันมาทานผักมากขึ้น ตอบสั้นๆ ได้เลยว่า ก็เพราะผักมันมีประโยชน์มากต่อร่างกาย ใครที่ยังเฉยๆ กับการทานผัก หรือไม่เคยคิดจะทานผักเลย บอกเลยว่าคุณจะต้องเปลี่ยนใจเมื่อได้รู้ถึงประโยชน์ต่างๆ ของผักที่คุณจะต้องรักอย่างแน่นอน... “ผัก” เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย และเป็นแหล่งของใยอาหารที่ช่วยร่างกายกำจัดสิ่งหมักหมมในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ลดอาการท้องผูก ป้องกันริดสีดวงทวาร และโรคมะเร็งลำไส้ รวมถึงมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาล ระดับไขมันในเลือดและช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ นอกจากนี้ผักแต่ละสียังอุดมไปด้วยประโยชน์ต่างกัน เช่น สีเหลืองส้ม มีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สีแดง มีสารไลโคพีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด และยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด สีเขียว มีสารคลอโรฟิลล์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์ถูกทำลาย ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง สีม่วง มีสารแอนโทไซยานิน มีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และยับยั้งเชื้อ E. coli ในทางเดินอาหารที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ สีขาว-น้ำตาลอ่อน มีสารอัลลิซิน ช่วยลดโคเลสเตอรอลในเลือดป้องกันเส้นเลือดอุดตัน ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งได้ นี่เป็นเพียงประโยชน์บางส่วนเท่านั้นที่เราจะได้รับจากการทานผัก เพราะผักยังมีวิตามินและสารอาหารต่างๆ อีกมากมายที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นเหตุผลที่เราควรหันมาทานผักกันให้มากขึ้น ทีนี้ใครที่ไม่ชอบทานผักก็เริ่มหันมามองผักกันแล้วหละสิ... ผักยังมีวิตามินและสารอาหารต่างๆ อีกมากมายที่
จำเป็นต่อร่างกาย เป็นเหตุผลที่เราควรหันมาทานผักกันให้มากขึ้น
Source: https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/906
© โรงพยาบาลรามคำแหง - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางครบทุกสาขา
ขอขอบคุณ : https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/906