![]() |
แนวทางการแก้ปัญหาความถดถอยของการออมภาคครัวเรือนเกษตรในเขตจังหวัดนครสวรรค์ |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | ชุณษิตา นาคภพ |
Title | แนวทางการแก้ปัญหาความถดถอยของการออมภาคครัวเรือนเกษตรในเขตจังหวัดนครสวรรค์ |
Contributor | - |
Publisher | บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ |
Publication Year | 2559 |
Journal Title | วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์ |
Journal Vol. | 11 |
Journal No. | 33 |
Page no. | 47-58 |
Keyword | การออม, ครัวเรือนเกษตร, การถดถอย |
URL Website | http://www.tci-thaijo.org/index.php/JSSRA/ |
Website title | ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย |
ISSN | 2408-1647 |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาความถดถอยของการออมภาคครัวเรือนเกษตรในเขตจังหวัดนครสวรรค์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการออมของครัวเรือนเกษตร 2) หาแนวทางการแก้ปัญหาการออมที่เหมาะสมของครัวเรือนเกษตร โดยวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ด้วยวิธีแบบปกติ (Enter) และแบบขั้นตอน (Stepwise) ทำการเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามครัวเรือนเกษตรในเขตจังหวัดนครสวรรค์จำนวน 400 ครัวเรือน และนำผลที่ได้รับมากำหนดมาตรการระยะสั้น โดยเน้นการปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อศึกษาถึงการเปลี่ยนที่เกิดขึ้นของชุมชมเป้าหมาย และเป็นต้นแบบในการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาการออมถดถอยของภาคครัวเรือนเกษตรในเขตจังหวัดนครสวรรค์ต่อไป ผลการวิจัยปรากฏดังนี้ จากการวิเคราะห์การออมของครัวเรือนเกษตรแบปกติ พบว่า ตัวแปรอิสระทั้งหมด 5 ตัว ได้แก่ อายุ (A) จำนวนสมาชิกในวัยพึ่งพิง (N) รายได้รวมของครัวเรือนเกษตร (Y) รายจ่ายรวมของครัวเรือนเกษตร (C) และหนี้สินของครัวเรือนเกษตร (D) ร่วมกันพยากรณ์การออมได้ร้อยละ 49.20 โดยตัวแปรที่ส่งผลการออมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ มีจำนวน 2 ตัว คือ รายได้รวม (Y) และ รายจ่ายรวม (C) การวิเคราะห์ด้วยวิธีแบบขั้นตอน พบว่า รายได้รวม (Y) และ รายจ่ายรวม (C) ร่วมกันพยากรณ์การออมได้ร้อยละ 47.60 ผู้วิจัยใช้มาตรการระยะสั้นดำเนินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ 2 โครงการ คือ 1) โครงการส่งเสริมอาชีพเสริม และ2) โครงการบัญชีครัวเรือน ผลการติดตามผู้เข้าร่วมโครงการทั้ง 30 คน พบว่ามีรายได้จากอาชีพเสริมเพิ่มขึ้น ทำให้ครัวเรือนใช้เวลาว่างในระหว่างรอการเก็บเกี่ยวให้เป็นประโยชน์ และช่วยลดจำนวนผู้พึ่งพิงของครัวเรือน การให้ความรู้แก่ครัวเรือนในเรื่องของบัญชีครัวเรือนเป็นเรื่องที่ควรได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นการสะท้อนถึงค่าใช้จ่ายที่แท้จริงของครัวเรือนถึงรายจ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็น เพื่อให้ครัวเรือนสามารถวางแผนการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งรายจ่ายในภาคเกษตร และนอกภาคเกษตร ซึ่งจะทำให้อัตราการออมของครัวเรือนเกษตรในอนาคตเพิ่มสูงขึ้น และทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของภาคเกษตรดีขึ้น ลดการกู้ยืมหนี้สิน ส่งเสริมให้ครัวเรือนเกษตรสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรอย่างแท้จริง |